วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2555


• อดีต เอาไว้สอนใจ 
อนาคต เอาไว้เตรียมใจ 
ปัจจุบัน เอาไว้ใส่ใจ

• การรู้ตัวว่ายังมีชีวิต
ไม่ใช่เรื่องน่าดีใจ
ความภูมิใจในการมีชีวิตต่างหาก ที่ใช่ 

• อยู่อย่างไร้ค่า
เพราะไม่หาเรื่องน่าภูมิใจให้ตัวเองทำ

• ชีวิตดีๆ ไม่ควรมีแต่ลมหายใจ
ทุกลมหายใจ ควรมีเป้าหมายในชีวิตอยู่ด้วย

.. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..

• ถ้าอยากมีชีวิตที่เลวลง อย่างคิดไม่ถึง
คุณแค่หมั่นทำเลว ที่ไม่เคยแม้จะอยู่ในความคิด
หากปรารถนาชีวิตที่ดีขึ้น อย่างคิดไม่ถึง
คุณต้องทำดีมากกว่า ที่คิดว่าตัวเองจะทำได้

• เราต้องสร้างที่พึ่ง
อันมั่นคงที่สุดในชีวิตไว้ก่อนล่วงหน้า
นั่นคือ "วิธีคิดที่จะลุกขึ้นด้วยตัวเอง"
สร้างเสร็จเมื่อไร
พร้อมใช้ตลอดชีวิตที่เหลือเมื่อนั้น

• วิธีทำชีวิตให้ดีที่สุด
คือจัดการกับวันนี้ ก่อนวางแผนถึงวันหน้า
ไม่ใช่เอาแต่พะวงถึงวันหน้า ก่อนจัดการกับวันนี้

.. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..

• ชีวิตที่เกิดมาดีที่สุด
คือชีวิตที่รู้ว่า
เราจะตั้งเข็มไปทางสวรรค์นิพพานได้ยังไง

• เสวยสุขโดยดี ยังไม่ใช่คนดีทน
ต้องฝึกตนผ่านทุกข์ได้ด้วยดี ถึงจะดีจริง

• พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้ดีครั้งเดียว
แล้วได้รับผลตอบแทนดีๆกลับมาตลอดไป
ท่านให้ดีตลอดไป
แล้วค่อยหวังจะรับผลดีได้นานๆครับ

- ดังตฤณ -
http://www.facebook.com/AskDungtrin

•『 TUNYAR 』• 
 ไฟ ๑๑ กองที่แผดเผาสัตว์โลก "

อันว่า...สรรพสัตว์ทั้งปวงคือมนุษย์ และไม่เว้นแม้แต่เทวดา คือว่ามีไฟ ๑๑ กองแผดเผาอยู่เสมอ ไฟที่เป็นเหตุให้ได้รับความทุกข์ทรมานดังกล่าว มีดังนี้

๑. ราคะ ความกำหนัด ความชอบใจในกามคุณ

๒. ไฟโทสะ คือ ความโกรธ มีความไม่พอใจเป็นลักษณะสำคัญ

๓. ไฟโมหะ ได้แก่ ความลุ่มหลงต่าง ๆ ในรูป รส กลิ่น เสียง ความลังเลฟุ้งซ่านไปตามอารมณ์

๔. ชาติ ไฟแห่งความเกิด หรือกำเนิดที่เป็นทุกข์

๕. ชรา คือ ความแก่ การก้าวสู่ความเสื่อมของร่างกายที่เป็นทุกข์

๖. มรณะ คือ ไฟร้อนที่เกิดจากความตาย ความพลัดพรากอันเป็นทุกข์

๗. โสกะ คือ ไฟแห่งความเศร้าโศก

๘. ปริวะ คือ ไฟบ่นเพ้อร่ำไรรำพัน

๙. ทุกขัง คือ ไฟที่มาจากความทุกข์ยากลำบาก ทั้งกายและจิตใจ

๑๐. โทมนัส คือ ไฟที่มาจากความเสียใจ

๑๑. อุปายโส คือ ไฟที่มาจากความคับแค้นใจ

ครับ ไฟทั้งปวงที่กล่าวมา ท่านถือว่าเป็นไฟที่ลุกโชนเผาผลาญสัตว์โลกมายาวนาน นับตั้งแต่อุบัติจนถึงปัจจุบัน และอนาคตข้างหน้าอย่างมิรู้จบ

ฤา...ฟ้าพิโรธ....ของหิ่งห้อยน้อย

กวีธรรมเบาๆ ในวันหยุด
ฤา ... ฟ้าพิโรธ 

๐ ฟ้าพิโรธ .. ขึ้งโกรธ โลกมนุษย์
มิยั้งหยุด แสดงมา น่ากลัวยิ่ง
เพราะมนุษย์ มิเชื่อฟ้า ยามสุขอิงน
โถมทุกสิ่ง ให้ได้ห่ม บ่มเพาะกาม

๐ ฟ้าพิโรธ .. ยังไม่ถึง ซึ่งขีดสุด
เหวยมนุษย์ ที่อวดดี มีแต่หยาม
ไม่เห็นดิน ไม่รู้ฟ้า พามุ่งกาม
คิดกระทำ แต่ตาม ใจของตน

๐ ฟ้าพิโรธ .. เพราะมนุษย์ ลบหลู่ฟ้า
ขอเพียงข้าฯ เสวยไว้ ในสุขล้น
ผู้ต่ำต้อย แหงนคอย วาสนาตน
ทำทุกอย่าง ให้พ้น หนต่ำทราม

๐ ฟ้าพิโรธ .. โกรธแล้ว เล่นงานบ้าง
กลับใช้อ้าง สร้างสิ่งชั่ว มั่วเหตุสาม
ทั้งกาย จิต วาจา ไซร้ ไร้ความงาม
อยู่ในคาม โลภ โกรธ หลง ดงโลกีย์

๐ ฟ้าพิโรธ .. ระลึกได้ กันไหมหนอ
อย่าเพียงรอ ขอให้ช่วย อวยสิ่งศรี
เพียรกระทำ กาย จิต และวจี
สร้างกรรมดี ด้วยเจริญ เมตตาธรรม

๐ ฟ้าพิโรธ .. อย่างไร เรื่องของฟ้า
เจริญเมตตา กันไว้ด้วย ช่วยอุปถัมภ์
เพื่อนร่วมทุกข์ ร่วมสุข ร่วมระกำ
ยามเพื่อนช้ำ ช่วยกันไว้ ให้คลายทุกข์ฯ

****************************************
เจริญในธรรมเจ้าค่ะ
หิ่งห้อยน้อย