วันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2555



• ชนะใจตัวเองได้
ก็ชนะใจคนที่อยู่ใกล้ได้

• ทวิตเตอร์และเฟสบุ๊ค
เป็นแหล่งเพาะนิสัย
" ระบายความในใจ " ให้คนอื่นเห็น
แต่ไม่ค่อยเป็นแหล่งเพาะนิสัย
"เห็นใจคนอื่น" สักเท่าไหร่

• ในการอยู่ร่วมกันกับใครสักคน
ไม่ต้องทำดี ก็อาจเผอิญได้อย่างใจคุณ
แต่คุณจำเป็นต้องมีดี ถึงจะเห็นใจเขาได้

• อย่าคาดหวังจะให้ใครต่อใครเข้าใจคุณ
เพราะเกือบทุกคน
ก็กำลังสับสนอยู่กับการทำความเข้าใจตนเองเช่นกัน

• กว่าจะเลิกอยากให้คนอื่นเข้าใจคุณ
คุณจำเป็นต้องเข้าใจตัวเองให้ขา
และเห็นใจคนอื่นมากๆได้เสียก่อน

และพอเลิกอยากให้คนอื่นเข้าใจนะครับ
กระแสความเข้าใจคนอื่นจะเริ่มก่อตัวขึ้นในเราเอง
ตลอดจนดึงดูดเขา มาสนใจเราด้วยความรู้สึกที่ดีขึ้นไปแทน
นี่คือธรรมชาติของจิตที่แผ่ออกไปด้วยกระแสเมตตาโดยแท้

.. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..

• สายตาที่มองอย่างพร้อมจะทำความเข้าใจ
: ให้ความรู้สึกอบอุ่นน่าอยู่ใกล้

สายตาที่มองอย่างพร้อมจะจับผิดหาเรื่อง
: ให้ความรู้สึกกดดันน่าออกห่าง

เพียงเท่านี้ก็ควรแก่การนำไปใช้ทำนายแล้วว่า
ใครสมควรจะมีชีวิตคู่ยืนยาวได้แค่ไหน

• คนเราไม่ได้รักกันมากน้อย
เพราะเป็นคนเก่าหรือคนใหม่
แต่เพราะเจอกันแล้วรู้สึก
เหมือนพบน้ำเย็นหรือไอร้อนมากกว่ากัน

.. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..

: พระพุทธเจ้าตรัสว่า
อยากให้ใครดีมา ก็ให้ดีกับเขาก่อน
แม้จะเถียงว่า
ดีอย่างไร มันก็ร้ายมาอยู่วันยังค่ำ

แต่ที่สุดแล้ว
เมื่อดีกับคนมากพอ
ยืนหยัดกับตัวตนเดิมนานพอ
ความพร้อมจะดีกับใครๆ จริงๆ

ก็เข้มข้นพอจะผ่อนหนักให้เป็นเบ
หรือเปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดีได
ถึงตรงนั้นจะรู้ว่า

"พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้ดีครั้งเดียว
แล้วได้รับผลตอบแทนดีๆ กลับมาตลอดไป
ท่านให้ดีตลอดไป
แล้วค่อยหวังจะรับผลดีได้นานๆ ครับ"

.. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..

• อยู่ร่วมกัน...
ต้องสร้างความรู้สึกอันเป็นบุญกุศล
ไปในทางเดียวกันให้ได้ก่อน
ไม่งั้นช่องว่างระหว่างคน
จะเป็นอุปสรรคให้เจรจาไม่รู้เรื่อง

- ดังตฤณ -
http://www.facebook.com/AskDungtrin


"มองเป็น ก็เห็นธรรม...
มองต่ำ ธรรมอยู่เบื้องหน้าก็ไม่เห็
เพราะมีจิต ไปยึดติดในกฏเกณฑ์
แล้วไปเน้นเอนหลับทับคัมภีร์...

ธรรมแท้ มีอยู่ ที่ทั่วไป...
คนมีปัญญา มองอย่างไรพบทุกที่
ครูธรรมชาติสอนเราได้อย่างด
โอปนยิโกมี น้อมมาสู่ภายใน

โยนิโสมนสิการ การใคร่ครวญ
เป็นกระบวนเรียนรู้ ดับทุกข์ได้
เมื่อได้เห็น กำหนดดู รู้ทันไป
ตัณหาไม่ เกิดมี เพราะรู้ทัน

อุปาทานการยึดถือ ของเราเขา
จิตถูกเผา เร่าร้อน อย่างมหันต์
การปล่อยวางว่างทุกข์สุขใจพลัน
ธรรมะนั้น จะแจ่มชัด เมื่อปฏิบัติตามฯ
• ถ้ายังไม่มีความรัก 
อย่าเพิ่งรีบหาความรัก 
แต่ให้เร่งรู้วิธีสร้างความรัก 
ด้วยการใจเย็นเป็น เห็นใจเป็น 
พูดดีเป็น อภัยเป็น ไม่เสแสร้งเป็น 
แล้วในที่สุดความรักจะตามหาคุณเจอเอง

• ความรักเป็นภาวะปรุงแต่ง
อาศัยบุญเก่าที่เคยอยู่ร่วมกัน
เป็นตัวผลักดันให้มาพบและคุ้นกัน
และอาศัยบุญใหม่ทำให้อยู่ร่วมกันรอด

~ ♡ ~ ⊰ ❤ℒℴνℯ❤ ⊱ ~ ♡ ~

• การส่งเสริมกันทางจิตวิญญาณ
คือวิธีเดียว
ที่จะรักษากันและกันไว้ได้ตลอดรอดฝั่ง

ฉะนั้น
อาจต้องเริ่มจากจุดแรกสุด
คือขอให้เลือกคนที่คุณ...
: อยากสวดมนต์ร่วมกับเขา
: อยากใส่บาตรร่วมกับเขา
: คนที่คุณอยากคิดกับเขาในทางดี
: อยากพูดดีๆกับเขา
และอยากทำอะไรดีๆให้เขา

เริ่มเดินดียิ่งเดินก็ยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ
ต่อให้ต้องเผชิญหน้าปัญหาทางการเงิน เจอมือที่สาม
หรือกระทั่งเซ็กส์ไม่สมดุล
ก็ยากนักที่จะทำให้คุณแตกแยกกันได้

• กุศลแรงที่สุดที่ช่วยรักษาชีวิตคู่ไว้
คือกุศลทางใจอันเกิดจากการคิดเกื้อกูลกัน
ไม่ยอมตามความคิดประทุษร้ายกัน
ตั้งใจจริงและลงมือทำ

~ ♡ ~ ⊰ ❤ℒℴνℯ❤ ⊱ ~ ♡ ~

• บุญเก่าไม่พอ
คือไม่พอจะทำให้อยากคบกัน
บุญใหม่ไม่พอ
คือไม่พอจะทำให้จากกันโดยดี
อย่าว่าแต่จะทำให้อยู่กันได้รอด

• รักที่สุดคืออาการยึดที่สุด
ยึดที่สุดคือต้นทางทุกข์ที่สุด

• รักอันเจือด้วยราคะ
คืออาการยึดของจิต
จิตยึดเมื่อไร ต้นเหตุทุกข์ก็เกิดขึ้นเมื่อนั้น

: ส่วนรักด้วยเมตตา
คือปล่อยอาการยึด
มีแต่ปรารถนาความไม่เบียดเบียนและความเกื้อกูล
อาการไม่ยึดของจิต
ก็คือคลายเหตุแห่งทุกข์

~ ♡ ~ ⊰ ❤ℒℴνℯ❤ ⊱ ~ ♡ ~

• พบรักแท้ว่ายากแล้ว
เหมือนโชคดีเหลือเกินแล้ว
แต่ความจริงคือพบทางพ้นทุกข์นั้นยากกว่า
และโชคดีกว่าอย่างเทียบกันไม่ได้

เพราะความรักเป็นสิ่งที่เจืออยู่ด้วยความว้าวุ่น
และต้องยุติลงด้วยการจากเป็นหรือจากตาย

แต่ความพ้นทุกข์
มีแต่ความสงบที่เต็มบริบูรณ
กับทั้งเป็นอมตะอย่างแท้จริ
ไม่มีการพรากจากอีกเลย

- ดังตฤณ -