วันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ธรรมในวันหยุด.. วันอาทิตย์ที่ ๘ กค.๕๕
รูปมายา ….. กายที่ไม่งาม

๐ มองเห็นรูป มายา ตรงหน้านี้
ยากจะเอ่ย เผยวจี ตำหนิไฉน
ภาพสะท้อน รูปเด่น งามเหลือใจ
ใครเล่าใคร จะมองเห็น เช่นอสุภะ

๐ ตาเห็นรูป ลูบไล้ เพียงภายนอก
ตามิหลอก รูปร้าย ใคร่อยากผละ
แม้นกลับด้าน ในเป็นนอก ล้วนอสุภะ
เพ่งให้เห็น เพื่อละ ความยินดี

๐ เมื่อรู้เห็น กายเช่น อสุภะ
หรือเปรียบดัง อุจจาระ ในหม้อใหญ่
นำสิ่งประดับ มาตบแต่ง ภายนอกไว้
เพื่อทำให้ มองเห็น เช่นมณี

๐ อุปาทาน ยึดมั่น คือตัวเรา
ที่แบกเขลา โง่งมมา ว่าสดศรี
สักกายะ ตัวตน ล้นอินทรีย์
คลายฤดี ละไว้ ในตัวตน

๐ สังโยชน์หนึ่ง สิ่งทราม ตามผลาญจิต
ที่แนบสนิท พาจิต เวียนว่ายหน
ละสักกายะทิฏฐิ ทิ้งตัวตน
อย่าไปค้น ให้โผล่มา แล้วยึดครอง

๐ กายไม่งาม กายไม่งาม เห็นทรามแน่
สิ่งที่แท้ มหาภูตสี่ ที่สนอง
โตด้วยข้าว และขนม บ่มและกรอง
ท้ายที่สุด สุดหมอง ต้องแตกทำลายฯ

*******************************
๐ อุปาทาน = ยึดมั่นถือมั่น

๐ อสุภะ = สิ่งที่ไม่งาม

๐ สักกายะ = ตัวตน

๐ สักกายทิฏฐิ = ความเห็นว่าเป็นตัวเป็นตน
เป็นสังโยชน์ตัวที่ ๑ ที่ร้อยรัดจิตของสัตว์โลกไว้กับทุกข์
และทำให้เวียนว่ายในวัฏฏสงสาร

๐ อินทรีย์ = ความเป็นใหญ่ ธรรมที่ทำหน้าที่เป็นเจ้าการ
ได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ

๐ มหาภูต ๔ = ธาตุทั้ง ๔ ที่ประกอบเป็นร่างกายของสัตว์
ได้แก่ธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ

๐ สังโยชน์ = ธรรมที่เป็นกิเลสที่มัดจิตสัตว์ไว้กับทุกข์
ทำให้ต้องเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏสงสาร
ถ้าละสังโยชน์ได้ ก็ไม่มีสิ่งผูกมัดไว้ในวัฏฏสงสาร
ก็จะหยุดการเวียนว่ายตายเกิด มี ๑๐ อย่าง

***************************************
เจริญในธรรมเจ้าค่ะ
หิ่งห้อยน้อย

*****************